วิธีปลูก และดูแล มะขาม Tamarind

   มะขาม ชื่อสามัญ Tamarind ชื่อวิทยาศาสตร์ Tamarindus indica เเป็นไม้เขตร้อน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกาแถบประเทศซูดาน, ประเทศแคเมอรูน, ประเทศไนจีเรีย, ประเทศเคนยา, ประเทศแซมเบีย, และประเทศแทนซาเนีย ต่อมามีการนำเข้ามาในแถบประเทศเขตร้อนของเอเชีย ประเทศไทยจะปลูกแพร่หลายที่จังหวัดเพชรบูรณ์ 

มะขามมีลักษณะเป็นทรงพุ่มขนาดใหญ่ปลูกได้ดีในสภาพพื้นที่ฝนตกไม่ชุกมากนัก ดินร่วนเป็นดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกมะขาม

เพราะมีความอุดมสมบูรณ์สูงมีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 6.5 มะขามจึงเจริญเติบโตได้ดีไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อรามารบกวน มะขามหวานจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกไปแล้ว4ปีขึ้นไป และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ยาวนานถึง 30 ปี

พีช มะขาม Tamarind  คืออะไร

มะขาม Tamarind เป็นไม้ผลและสมุนไพรที่ให้คุณค่าทางสารอาหารมากมาย มะขามมีสองชนิดที่เห็นได้ชัดคือมะขามเปรี้ยวและมะขามหวาน ในที่นี้จะพูดถึงมะขามหวานที่ทุกคนรู้จักกันอย่างแพร่หลาย จังหวัด เพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่ปลูกมะขามหวานมากที่สุดในประเทศไทย  

มะขามหวานเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทนแล้งได้ดี เกษตรกรได้พัฒนาสายมายพันธ์มะขามหวานออกมาสู่ตลาดหลากหลายสายพันธ์ ตัวอย่างเช่น 

• พันธ์ประกายเพชร(หวานปกติ/ฝักใหญ่)
• พันธ์ประกายทอง(หวานมาก)
• พันธุ์สีทอง(หวานมากและนิยมปลูกมาก)
• พันธ์ขันตี (หวานปานกลาง)
• พันธุ์สีชมพูทองปลิง(หวานปานกลาง)
• พันธ์เพชรซับเปิบ หวานคุณภาพดีมาก

ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกมะขามหวานพันธุ์สีทองและมะขาม 1000 ประกายทองซึ่งเป็นมะขามที่หวานที่สุดและมีเนื้อค่อนข้างเยอะรับประทานได้อย่างอร่อยมากทีเดียวและอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีมาแรงตอนนี้คือมะขามหวาน 1000 ซับเปิดเป็นมะขามหวานจากตำบลซับเปิดที่ให้ความหวานคุณภาพดี

วิธีปลูก

เพื่อให้ผลผลิตที่ได้ไม่เกิดการกลายพันธุ์จึงขยายพันธุ์ด้วยวิธีทาบกิ่งติดตาหรือต่อกิ่งเพื่อให้มะขามหวานมี่คุณสมบัติเหมือนต้นแม่ทุกประการและที่สำคัญคือต้นมะขาม หวาน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพดินแม้ว่าดินบริเวณนั้นจะไม่มีความอุดมสมบูรณ์ก็ตาม ที่ดิน 1ไร่ สามารถปลูกมะขามหวาน//ได้ 25ต้น กรรมวิธีในการปลูกมีดังนี้

1. ไถพรวนดินตากทิ้งไว้ประมาณ 5- 10 วันและต้องกำจัดวัชพืชด้วยต่อจากนั้นให้ทำซ้ำอีกครั้งก่อนที่จะขุดลุมปลูก
2. ขุดหลุมปลูกให้มีความกว้างและยาวและลึกประมาณ 50 × 50 × 50 เซ็นติเมตร
3. ให้ผสมปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีรวมกับดินที่ขุดขึ้นมาจากหลุม ปุยคอก 1-2.5กิโลกรัม ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15  จำนวน2กำมิอ  ผสมให้เข้ากันดี แล้วเอามาลองก้นหลุม 
4. นำกิ่งพันธุ์ที่มีอายุ 1-1.5 ปี มาปลูกลงานหลุม จากนั้นให้กลบดินที่เหลือลงไปให้เสมอปากหลุม หาฟังข้าวหรือใบไม้มาคุมหลุมปลูกด้วยควรนำไม้มาปักข้างลำต้นแล้วผูกยึดติดกันไว้เพื่อป้องกันการโยกจากแรงลม
5. รดน้ำให้ชุม ถ้าหากปลูกในฤดูฝน จะดีมาก เมื่อปลูกได้ 3-4 ปี ก็จะได้ผลผลิตออกสู่ตลาด

การดูแล และบำรุงรักษา

การให้น้ำ

ถ้าเป็นฤดูแล้วควรให้น้ำเป็นประจำไม่ให้ขาด แต่หากเป็นฤดูฝนก็ไม่จำเป็นต้องให้น้ำบ่อยแต่หากฝนทิ้งช่วงเป็นเป็นเวลานานควรจะให้น้ำเพิ่มมากขึ้น ต้นมะขามหวานมีอายุ1ปีขึ้นไปไม่จำเป็นต้องให้น้ำต่อไปก็ได้

การใส่ปุ๋ย 

มีสองระยะๆละ2ครั้งต่อปี

ระยะแรก เป็นระยะที่ยังไม่ออกผล ถือเป็นระยะบำรุงต้น ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-8-8 ในอัตราต้นละ 100-200 กรัม ปีละสองครั้งในช่วงต้นและปลายฤดูฝน

ระยะที่2  เป็นระยะติดผลแล้ว ควรใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 8-24-24 ในอัตราเดียวกันกับครั้งแรกคือ 100-200 กรัม โดยสมสีสองครั้ง ครั้งแรก มนช่วงติดผล ครั้งที่สองเมื่อเริ่มแตกใบใหม่

การกำจัดวัชพืช

ได้หนึ่งปีควรกำจัดวัชพืชประมาณสามถึงห้าครั้งอย่างต่อเนื่องส่วนในปีถัดไปใช้วิธีไทยกลบหน้าดินก็ได้ไม่ควรใช้สารเคมีเพื่อกำจัดวัชพืช

การเก็บเกี่ยว

มะขามหวานจะให้ผลผลิตเมื่อเราปลูกได้ย่างเข้าปีที่สี่ หากมีการบำรุงและดูแลรักษาที่ดีก็แบบมีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวได้นานถึง 30 ปีขึ้นไปซึ่งในฤดูเก็บเกี่ยวโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม -มีนาคม  ของทุกปี โดยสลับกันไปของละสายพันธ์

โรคและแมลงศัตรูพืช 

เมื่อตั้งใจจะปลูกมะขามหวานต้องระวังเรื่องโรคที่มีผลกระทบต่อดอก ใบ ลำต้น กิ่ง ยอด และผลฝักของมะขามหวานดังนี้

โรคราแป้ง

ช่วงที่ ราแป้ง ระบาดมากคือช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวโดยที่ รา แป้งจะเข้าไปกินใบอ่อนและฝักอ่อนของมะขาม ควรป้องกันกำจัดโดยใช้สารเคมีจำพวกเบโนมิยไดโนแคปไพราวอนหรือกำมะถัน

หนอนกัดกินกิ่งมะขาม 

ให้สังเกตกิ่งมะขามที่เริ่มแห้งตาย จะเห็นรูเล็กๆนั่นแสดงว่านอนเข้าไปเจาะกินกิ่งแล้ว ควรตัดแต่งกิ่งตายเหล่านี้ไปเผาทิ้งและฉีดยาพ่นกิ่งที่เหลือเพื่อป้องกันหนอนบุกเข้ามาทำลายซ้ำอีก

หนอนเจาะฝัก

ส่วนใหญ่จะเป็นหนอนผีเสื้อมาวางไข่ทิ้งไว้เป็นหย่อมๆละ2-3ฟองที่ใบหรือฝักมะขามเมื่อหนอนฟักออกมาก็จะเจาะเข้าไปในฝากกินบริเวณผิวเปลือกก่อนและก็ไชเข้าไปกินเข้าไปภายในฝัก

วิธีป้องกันกำจัดหนอนควรหมั่นตรวจดูฟาร์มมะขามที่ถูกน้องทำลายจะร่วงหล่นลงมาตามโคนต้นคุณควรเก็บไว้เผาหรือทำลายให้สิ้นซากและ 10 แล้วจึงแล้วจึงใช้สารเคมีฆ่าแมลงกลุ่มคาบาริล(carbaryl) พ่นป้องกันในระยะที่ฝากมะขามยังผ่อนอยู่ก็จะช่วยป้องกันได้ในระดับที่ดีทีเดียว

เพลี้ยด่าง

ควรฉีดพ่น สารเคมีจำพวกพาราไทยออน(parathion) เพื่อป้อกันเพลี้ยด่างมาดูดกินน้ำหล่อเลี้ยงฝักมะขาม

ไร

การทำลายมะขามคล้ายกันกับพวกเพลี้ย แต่คุณสามารถป้องกันและกำจัดไร โดยใช้สารเคมีใดโคฟอล (dicofol))

การนำไปใช้

การนำมาใช้ประโยชน์เริ่มจากระยะเก็บเกี่ยวข้าวฝักมะขามควรเก็บโดยการใช้กรรไกรตัดขั้ว ให้หลุดออกจากกกิ่ง ไม่ควรใช้มือเด็ดหรือดึงเพราะจะทำให้ฝักมะขามแตก ถ้าหากมีการแตกแล้วจะทำให้เชื้อโรคเข้าไปทำลายเนื้อมะขามโดยเฉพาะพวกหนอนจะเข้าทำลายจนทะลุถึงเม็ดของมะขามด้วย เมื่อเก็บมะขามแล้ว ควรนำลงในเก็บถุงพลาสติกในอุณหภูมิปกติ ซึ่งสามารถเก็บได้นานถึง 5-6เดือน

มะขามจัดเป็นผลไม้ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงและยังมีคุณค่าในการใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย มะขามเป็นยาขับเสมหะ ยาแก้อาการท้องเดิน ยาบรรเทาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ด้วย

มะขามยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างวิตามินซี วิตามินบี 2 วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เป็นต้น มะขามที่แก่จัดนั้นเราจะเรียกว่า “มะขามเปียก” โดยมะขามหวาน 100 กรัม จะมีแคลอรีเท่ากับ 314 แคลอรี

มะขามมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นอาหารผิวคือช่วยให้ผิวดี ผิวเนียน ช่วยลดริ้วลอยบนใบหน้า 

มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปงปังสดใสมะขามยังมีวิตามินซีด้วยเป็นประจำจะช่วยชะลอวัยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดใช้ในการทำทรีทเม้นท์ 

มะขาม มีส่วนช่วยเสริมสร้างต้านทานโรคให้แก่ร่างกายด้วยสารต่อต้านอนุมูนอิสระเนื้อมะขามช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีผิวเนียนนุ่มชุมชื่นผิว ช่วยในการชะลอวัยลดริวรอยและมะขามมีแคลเซี่ยมช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงค่ะ ธาตุเหล็กในมะขามมีส่วนช่วยสร้างเม็ดเลือด มะขามมีภาพเด็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดสามารถนำมะขามมาทำทิศเม้นเพื่อขัดผิวได้ผิวดำตามข้อพับรักแล้และขาหนีบ เป็นต้น

   การมีต้นมะขามเพียงต้นเดียวในสวนของคุณ คุณจะได้รับความสุขจากประโยชน์มากมายดังกล่าวมา อย่างไรก็ดีการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยาสมุนไพรต่างๆอาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบายควรปรึกษาแพทย์ เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ

หวังว่าเพื่อนๆจะชื่นชอบในบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ น้าหวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลในการปลูกและดูแลต้นมะขามอยู่นะครับ วันนี้หมดเวลาลงแล้วต้องลาไปก่อนพบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ 

สล็อตออนไลน์

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> แทงบอล