วีธีปลูกและดูแลมะเฟือง Star Fruit

เทคนิคการปลูกต้นไม้

มะเฟืองมีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Averrhoa carambola L. ชื่อสามัญ Carambola มะเฟืองเป็นไม้ผลที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นมากกว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็น เดิมทีมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศในแถบอินโดนีเซีย มาเลเซียและลังกา แต่ต่อมามีการแพร่กระจายมายัง ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นไทย ลาวและกัมพูชา ทางยุโรปและอเมริกาก็นิยมปลูกเช่นกัน ทั้งนี้คงเป็นเพราะว่ามะเฟืองมีคุณค่าและประโยชน์มากมายและถือเป็นสมุนไพรชั้นดีอย่างยิ่ง ทางภาคใต้ใช้สมุนไพรมะเฟือง(ภาคใต้เรียก เฟือง) ในการบำบัดโรคและบำรุงร่างกายได้อย่างมากมายครับ 

มะเฟืองคืออะไร

มะเฟืองคืออะไร

มะเฟืองถือเป็นผลไม้ที่อยู่ในประเภทเดียวกับกลุ่มยาถ่ายพยาธิอีกขนิดหนึ่งและคุณสมบัติสมบัติทางยาสมุนไพรมะเฟืองมีถึงกว่า 200 ชนิด ถือว่ามากกว่าผลไม้อื่นๆจึงนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย ผลไม้ชนิดนี้เป็นรูปร่างคล้ายดาวห้าแฉก  ผลอ่อนจะเป็นสีเขียว ผลแก่ใกล้สุกจะมีสีเหลืองทองสวยงามมาก สำหรับรสชาดจะหวานหรือเปรี้ยวนั้นขึ้นอยู่กับแค่ละสายพันธุ์ ครับเพราะว่ามะเฟืองมี2สายพันธุ์คือมะเฟืองหวาน และหวานมะเฟืองเปรี้ยว รสชาติของมะเฟืองสายพันธุ์หวานจะหวานมาก ส่วนสายพันธุ์เปรี้ยวก็จะเปรี้ยวมากเช่นกัน

ลำต้นของมะเฟืองจะสูงประมาณ10เมตร ทรงฟุ่มแผ่กิ่งก้านรายรอบลำต้นปลายกิ่งห้อยระย้า ออกดอกเป็นช่อซึ่งจะออกดอกตามกิ่งและลำต้น ช่อดอกยาว ดอกตูมมีสีม่วงแดง ดอกบานจะมีสีแดง สีม่วง สีขาว หรือชมพู ผลมะเฟืองมีลักษณะเป็นแฉกคล้ายฟันเฟืองผลกว้างประมาณ 3นิ้ว ยาวประมาณ 4-5นิ้ว เปลือกผลบางมากสามารถรับประทานได้ไดยไม่ต้องปอกเปลือกออก ภายในผลจะเป็นเมื่อที่ฉ่ำน้ำ มีรสชาดหวานหรือเปรี้ยวตามแต่ละสายพันธ์ ภายในผลมีเมล็ด 1-10 เมล็ดต่อผล 

มะเฟืองเป็นไม้ผลที่ไม่มีการผลัดใบ จึงนิยมปลูกให้เป็นร่มเงากันแดดร้อนได้อย่างดี มะเฟืองสามารถขยายพันธ์ด้วยการตอนกิ่ง ทาบกิ่งและเพาะเมล็ด หลังจากดอกมะเฟืองบานก็จะเห็นผลมะเฟืองค่อยๆโตขึ้น หลังจากนั้นอีกประมาณ60-75 วันก็จะได้เก็บผลผลิตมารับประทานและจำหน่ายได้แล้วครับ

สำหรับมะเฟืองที่นิยมปลูกกันมากได้แก่สายพันธุ์มาเลเซีย (พันธ์ุB17และพันธุ์B10) เพราะเป็นมะเฟืองที่มีผลใหญ่และมีรสหวานมาก นอกจากนี้ผุ้คนยังนิยมปลูก สายพันธุ์กวางตุ้ง สายพันธุ์ดาราสยาม สายพันธุ์ไต้หวัน สายพันธุ์ศรีเวียง ส่วนสายพันธุ์ดั้งเดิมของไทยแม้จะเป็นสายพันธุ์เปรี้ยว แต่ก็ยังมีคนนิยมปลูกเช่นกันครับ

วิธีปลูกมะเฟือง

วิธีปลูกมะเฟือง

วิธีปลูก

มาดูยิธีปลูกมะเฟืองอย่างไรให้รอดใน5 ขั้นตอนกันครับ

1.เตรียมพื้นที่ปลูกหรือแปลงปลูก มะเฟืองสามารถปลูกได้บนพี้นที่ที่มีดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย ใน1 ไร่ สามารถปลูกได้ 50 ต้น

2..เตรึยมต้นพันธุ์ที่อายุ 1 ปี  ชื่งลำต้นจะสูงประมาณ 1-1.2 เมตร

3.เตรียมดินปลูกผสมกับปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักอัตราส่วน 2:1:1 แดตรียมฟางข้าวสำหรับคลุมหน้าดินหลังปลูกและ.เตรียมน้ำสำหรับรดหลังปลูกเสร็จ

4.กำหนดแนวหลุมปลูก หฝให้ห่างกัน 4×6เมตรต่ ลงมือขุดหลุม กว้างxยาวxลึก=50x50x30 เซนติเมตร สำหรับปลูกต้นพันธุ์ที่มาจากกิ่งตอนเพราะไม่มีรากแก้วจึงสามารถขุดหลุมตื้นกว่ากิ่งพันธุ์ที่ได้มาจากการทาบกิ่งและเพาะเมล็ด ซึ่งจำเป็นต้องขุดให้ลึกลงไปอีก20 เซ็นติเมตร ทั้งนี้เพราะมีรากแก้วนั่นเอง

5.นำต้นพันธุ์มาปลูกโดยแบ่งดินที่ผสมไว้มารองก้นหลุมด้วยจากนั้นให้ตั้งต้นพันธ์ืุกลางหลุมปลูกแล้สกลบดินมห้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่มใช้ฟาง อ้าวที่เตรียมไว้ปก Chrome รอบรอบต้น เป็นอันเสร็จครับ รดนำทุกวัน เมื่เห็นว่าแข็งรงดีแล้วจึงรถวันเว้นวันเมื่อผ่านไปสองเดือนให้อาทิตย์ละครั้ง เมื่อถึงหน้าฝนก็มส่ปุ๋ยคอกเพิ่มพอสมควร 

การดูแลและรักษา

การดูแลและรักษา

การดูแลให้มะเฟืองอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมจะให้ผลผลิตที่ดีออกสู่ตลาดนั้น ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ระยะปลูกให ระยะให้ดอก ให้ผลจนถึงระยะเก็บเกี่ยวกันเลยที่เดียว มาดูวิธีการดูแลและรักษามะเฟืองกันครับ

การให้น้ำ

 มะเฟืองชอบแสงแดด จึงจำเป็นที่จะต้องให้น้ำเพียงพอ ระบายน้ำดี ปลูกช่วงแรกต้องรดน้ำทุกวัน เมื่อมะเฟืองเติบโตขึ้นก็ให้น้ำได้ตลอดไป ปลูกในฤดูฝนจะดี ควรตัดแต่งกิ่งบ้าง เพื่อให้ลำต้นไม่สูงเกินไป และต้องให้น้ำตลอด

การใส่ปุ๋ย

สามารถใส่ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยเคมีก็ได้ โดยใส่ปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ 10-20 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ประมาณ 200 กรัมต่อต้นต่อปี และให้เพิ่มปริมาณปุ๋ยสำหรับต้นที่ปลูกใหม่ที่กำลังติดผลเป็นอีก100 กรัม

ช่วงติดดอกใหม่ๆควรวดน้ำและเริ่มให้น้ำอีกครั้งเมื่อดอกบานและเริ่มติดผลอ่อน ควรเพิ่มทั้งน้ำและปุ๋ย ในปริมาณที่เหมาะสมคือ ปุ๋ยคอก ต้นละ 20*30 กิโลกรัม และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ต้นชะ 200-300 กรีม

มะเฟืองจะให้ผลผลิตภายใน2-3ปีหลังปลูก ฤดูเก็บเกี่ยวจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคม โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมนั้นจะให้ผลผลิตดีมาก เนื่องจากเป็นต้นฤดูฝนครับ

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืช

มะเฟืองเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยมีโรคและแมลงมารบกวน  และยังเป็นผลไม้ที่สามารถนำมาทำเป็นนำหมักชีวภาพเพื่อช่วยแก้โรครากเน่าและโคนเน่าของทุเรียนหรือผลไม้อื่นได้ด้วยครับ 

การนำมาใช้

การนำมาใช้ประโยชน์

อันดับแรกต้องทราบประโยชน์และโทษของมะเฟืองด้วยเมื่อต้องการจะนำมารับประทานเป็นอาหาร เนื้อมะเฟืองที่สุกพร้อมรับทานนั้นจะให้สารอาหารหลายประเภทเช่นคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น ธาตุเหล็ก  โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส  สังกะสีและมีกากใยอาหารสูง อุดมด้วยสารเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นต้านอนุมูลอิสระ แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจทำมห้เกิดเป็คนิ่วในไตรได้เช่นกัน ทั้งนี้ยังมีโทษอีก2อย่างที่ควรรู้คือ

1.สำหรับผู้ที่รับประทานยาลดไขมันหรือ ยาคลายเครียดอยู่ไม่ควรรับประทาน เนื่องจากมะเฟืองมีฤทธิ์ไปต่อต้านการทำงานของตัวยาทำให้ตัวยาหยุดชะงักต่อการบำบัดรักษาโรคที่เป็นอยู่ลง 

2.ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตหรือกำลังจะฟอกไตก็เช่นเดียวกัน ไม่ควรรับประทานมะเฟือง เพราะมะเฟืองมีกรดออกซาลิกสูงซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วโไตจะไม่สามารถขับออกมาได้ ซึ่งอาจ ทำให้เกิดอาการทรุดหนักเพิ่มมากขึ้นได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตจึงควรตระหนักในข้อนี้ให้ดีและควรเพิ่มความรู้ ให้รอบด้านทั้งด้านสมุนไพรและพืชผักผลไม้ต่างๆ ผู้ดูแลรักษาผู้ป่วยก็ควรมีความรู้ให้เพียงพอเพื่อประโยชน์ ของผู้ป่วยครับ

สรรพคุณของมะเฟืองนอกจากจะใช้เป็น ส่วนผสมของอาหารแล้วมะเฟืองยังมีประโยชน์ทางยาและบำรุงร่างกายเป็นสมุนไพรรักษาโรคได้ทั้งส่วนของ ผล เมล็ด ใบ ดอก เปลือกและราก สรรพคุณของมะเฟืองมีเพิ่มเติมอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

ผล ผลของมะเฟืองเมื่อได้รับประทานจะช่วยให้ชุ่มคอ มีส่วนช่วยบำรุงเหงือกและฟันโดยลดอาการเลือดออกตามไรฟัน มีส่วนช่วยขับผ่อนคลายเวลานั่งรถ นั่งเรือ แก้อาการเมารถเมาเรือได้  รับปรับทานหลังอาหารจะช่วยในเรื่องระบบการขับถ่ายเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยลดใขมันในเลือด ช่วยขับระดู แก้โรคหนองในสำหรับคุณผู้หญิง

เมล็ดมะเฟืองมีสรรพคุณแก้ปวดเมื่อยช่วยให้นอนหลับง่ายแก้โรคดีซ่านแก้อาการปวดท้องประจำเดือนแม้ว่าจะมีรสขมแต่ก็สามารถรับประทานได้ตามสุภาษิตที่ว่าหวานเป็นลมคมเป็นยา

ใบมะเฟือง ข่วยลดไข้ช่วยดับร้อนในร่างกาย ยามที่มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเอาใบมะเฟืองทาเคี้ยวให้เกิดน้ำในปากแล้วคายกากทิ้ง จะช่วยลดไข้ได้ครับ ใบมะเฟืองยังมีส่วนช่วยในการปวดแผลที่เกิดจากแลงกัดต่อยด้วย

ดอกมะเฟืองสามารถทานดอกสดได้จะช่วยขับพยาธิได้ผลอย่างยิ่งและช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายและลำไส้ได้ดี

โทษของมะเฟืองก็มีเช่นกัน โดยมะเฟืองเปรี้ยวจะมีสารออกซาลิ มากกว่ามะเฟืองหวานถ้าทานเข้าไปมากจะมีผลต่อสมองได้เช่นทำให้สะอึกทำให้ซึมและทำให้ชัก

ถึงแม้ว่านภูมิจะสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเฟือง” เป็นผลไม้ที่มีความนิยมและมีโฆษณาสรรพคุณว่า สามารถลดน้ำตาลได้ และดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน แต่จากการทบทวนงานวิจัยยังไม่พบงานวิจัยที่สนับสนุนเรื่องดังกล่าวมากนัก และพบว่ามีข้อควรระวังในการกินมะเฟืองด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต เพราะการกินมะเฟืองสามารถทำให้เกิดอาการไตวาย และส่งผลกระทบต่อสมองทำให้เกิดภาวะชักได้ เนื่องจากมะเฟือง โดยเฉพาะมะเฟืองชนิดเปรี้ยว จะมีสารบางชนิดที่ผู้ป่วยโรคไตไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้

บทสรุป

เมื่อทราบประโยชน์มากมายของมะเฟืองแล้ว ก็ต้องตระหนักถึงโทษของมะเฟืองด้วยครับ บ้างครั้งคนเราอาจจะชอบรับประทานผักและผลไม้โยไม่ทราบถึงคุณประโยชน์และโทษของผักและผลไม้แต่ละชนิดนั้นอย่างละเอียด

บาคาร่าออนไลน์

บทความต้นไม้

ไม้มงคล ตกแต่งบ้าน ราคาถูก